อีเมล์ :
รหัสผ่าน :
ลืมรหัสผ่าน
สถานที่ท่องเที่ยว
มัสยิดนัจมุดีน (บาโงยลางา)
ยังไม่มีผู้ให้คะแนน

มัสยิดโบราณ บาโงยลางา : “มัสยิดนัจมุดดิน” หรือที่เรียกขานกันว่า “มัสยิดบาโงยลางา” (คำว่า “บาโงย” เป็นภาษามลายู หมายถึง ควนหรือเนิน ส่วนคำว่า “ลางา” แปลว่า การปะทะ สถานที่แห่งนี้คือส่วนหนึ่งของสมรภูมิสงครามในครั้งนั้น) ปัจจุบันมีมัสยิด 2 หลัง เนื่องจากประชากรมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น จึงต้องสร้างหลังใหม่ขึ้นมา โดยมัสยิดหลังเก่าผู้ออกแบบคือ เจ้าอาวาสวัดทรายขาวในสมัยนั้น ด้วยเหตุผลของความเชื่อถือของคนในชุมชน อีกเหตุผลคือยุคนั้นยังไม่มีใครรับรู้ถึงสถาปัตยกรรมแบบอิสลาม ชาวบ้านเลยมอบภารกิจนี้ให้ก่อนที่ท่านมาเป็นเจ้าอาวาส ท่านเคยรับอิสลามมาก่อน โดยแต่งงานกับหญิงมุสลิม แต่หลังภรรยาเสียชีวิต ท่านจึงบวชที่วัดทรายขาวและกลายมาเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งเล่ากันว่าท่านเองก็ไม่รู้เรื่องศิลปกรรมแบบอิสลามเลยมัสยิดแห่งนี้สร้างด้วยไม้แค (ไม้เนื้อแข็ง) และไม้ตะเคียน ตัดมาจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ใช้หวายแทนเชือกมัดแล้วลากลงมาจากเขา จากนั้นใช้ขวานถากซุงให้เป็นเสาสี่เหลี่ยม ส่วนกระเบื้องมุงหลังคาทำจากอิฐแดงที่นำมาจากจากบ้านตาระบาตอ ต.กะมิยอ อ.เมือง จ.ปัตตานี ที่โดดเด่นคือ โครงสร้างมัสยิดทั้งหลังไม่ใช้ตะปู เพียงใช้ไม้เป็นสลักยึด “มัสยิดบาโงยลางา” จึงถือเป็นมัสยิดร่วมสมัย ลักษณะคล้ายกับศาลาการเปรียญและเป็นสถาปัตยกรรมเดียวกับ “มัสยิดตะโละมาเนาะ” (วาดิอัลอุเซ็น อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส) และ “มัสยิดเอาห์” (บ้านนัดตันหยง ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง)ในพื้นที่ยังมี “บ่อน้ำโบราณ” “กลอง” หรือ “นางญา” ที่ใช้ในการตีบอกเวลาละหมาดหรือเตือนภัยเมื่อมีเหตุร้าย จุดเด่นอยู่ที่ลิ้นทำจากไม้ไผ่ ซึ่งอยู่ภายในตัวกลอง เมื่อมีคนมาตีกลองไม้ไผ่เหล่านี้จะสั่น ทำให้เสียงไพเราะและดังก้องกังวานไกลไปถึงรัศมีกว่า 3 กิโลเมตร 

แสดงความคิดเห็น